บันทึกอนุทินครั้งที่ 3
วิชา
การจัดประสบการณ์การเรียนรู้ทางการศึกษาปฐมวัย
วันที่ 25 มกราคม 2559
เวลา 14.30 - 17.30 น.
ความรู้ที่ได้รับ
วันนี้แต่ละกลุ่มนำเสนองานตามหัวข้อที่ได้รับมอบหมาย
ดังนี้
1 มอนเตสเซอรี่
2 วอลดอร์ฟ
3 การเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐาน
4 พหุปัญญา
5
STEM
6
BBL ( ซึ่งกลุ่มของดิฉันได้นำเสนอเรื่องนี้ )
การเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน (Brain based Learning: BBL)
Brain
Based Learning คือ
การใช้ความรู้ความเข้าใจที่เกี่ยวข้องกับสมองเป็นเครื่องมือในการออกแบบ
กระบวนการเรียนรู้และกระบวนการอื่นๆ
ที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างศักยภาพสูงสุดในการเรียนรู้ของมนุษย์
โดยเชื่อว่าโอกาสทองของการเรียนรู้อยู่ระหว่างแรกเกิด
– 10 ปี Regate
และ Geoffrey Caine นักวิจัย
เกี่ยวกับการเรียนรู้โดยใช้ความรู้เกี่ยวกับสมองเป็นหลัก
ได้เสนอทฤษฎีเกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอน
12 ข้อ
ดังต่อไปนี้
1.
สมองเป็นกระบวนการคู่ขนาน
สมองเป็นอวัยวะที่มีความสำคัญที่สุดในร่างกายของคนเรา
เพราะการที่มนุษย์ สามารถเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ
ได้นั้นจะต้องอาศัยสมองและระบบประสาทเป็นพื้นฐานของ การรับรู้
รับความรู้สึกจากประสาทสัมผัส
ได้แก่ ตาทำให้เห็น หูทำให้ได้ยิน จมูกทำให้ได้กลิ่น
ลิ้นทำให้ได้รับรส และผิวกายทำให้เกิดกการสัมผัส
แนวการจัดกิจกรรมการสอน
ครูจำเป็นต้องใช้กลวิธีและเทคนิคที่หลากหลายเพื่อกระตุ้นสมองของนักเรียน
ไม่มีวิธีหรือเทคนิคของใคร
สมบูรณ์ที่สุด
ดังนั้นการสอนที่ดีต้องสอดคล้องกับการที่จะทำให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ตามเป้าหมายของ
การศึกษานั้น
ขึ้นอยู่กับการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่เอื้อต่อการเรียนรู้
ซึ่งกระบวนการเรียนรู้ของบุคคล
นั้นมีความหลากหลายและแตกต่างกันไปตามประสบการณ์และความสามารถพื้นฐานของบุคคลนั้น
ๆ
หรือ Style
การเรียนรู้มีหลายรูปแบบ โดยพบว่าห้องเรียนหนึ่ง ๆ
มักจะมีผู้ถนัดการเรียนรู้อยู่ 4 รูปแบบ
คือ นักทฤษฎี
นักวิเคราะห์ นักปฏิบัติ และนักกิจกรรม ดังนั้น
ครูจึงจำเป็นต้องจัดกิจกรรมการเรียนรู้
ให้เหมาะสมและเอื้อต่อผู้เรียนทั้ง 4
แบบอย่างเสมอภาคกัน
เพื่อให้ผู้เรียนมีความสนุกสนานเกิดความสุข
ในการเรียนรู้ตามรูปแบบที่ตนถนัด
รวมทั้งยังมีโอกาสพัฒนาความสามารถด้านอื่น ๆ ที่ตนเองไม่ถนัด
ด้วยวิธีการหลากหลายอีกด้วย
โดยอาจเริ่มจากรู้จักผู้เรียนเป็นรายบุคคลแล้ววางแผนจัดกิจกรรมการเรียนรู้
ให้สอดคล้องกับลักษณะของผู้เรียนรวมทั้งสร้างโอกาสให้เขาได้พัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง
2.
สมองกับการเรียนรู้
สมองไม่ได้มีหน้าที่เฉพาะรับรู้แต่เพียงอย่างเดียว แต่จะเป็นอวัยวะที่สำคัญต่อการพัฒนาของอวัยวะ
ทั้งหมดของร่างกาย ซึ่งจะรวมถึงการคิด การเรียนรู้
การจำ และพฤติกรรมของมนุษย์
มีความจำเป็น
อย่างยิ่งที่ครูผู้สอนควรจะมีความรู้เรื่องที่เกี่ยวกับการทำงานและการพัฒนาของสมอง
เพื่อจะได้วางแผน
จัดกิจกรรมการเรียนรู้ในลักษณะที่กระตุ้นให้สมองคิดและทำงานแบบท้าทาย
ยั่วยุมากที่สุด ผู้เรียนได้คิด
และแสดงออกอย่างสร้างสรรค์ในทุกด้าน
ซึ่งจะทำให้ผู้เรียนได้พัฒนากระบวนการคิดและเรียนรู้
เต็มตามศักยภาพ
เป็นรากฐานไปสู่การเป็นคนดี
คนเก่งและมีความสุขในการดำรงชีวิตและเมื่อเติบโตขึ้น
จะได้เป็นเยาวชนพลเมืองที่ดีของสังคมต่อไป
แนวการจัดการเรียนการสอน
วิธีการเตรียมความพร้อมทางสมอง
1.
การดื่มน้ำ ควรดื่มน้ำบริสุทธิ์ วันละ 6 – 8 แก้ว
เพราะถ้าร่างกายได้รับน้ำอย่างเพียงพอจะทำให้เซลล์สมอง
ทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2.
การรับประทานอาหาร ควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่
3.
การหายใจ ควรฝึกหายใจให้ลึก ๆ ซ้ำ ๆ และมีจังหวะที่แน่นอน
4.
การฟังเพลง / ดนตรี ควรหาโอกาสฟังเพลง / ดนตรี
จะกระตุ้นให้เกิดการรับรู้และกระตุ้นการทำงาน
ของสมองทั้งสองซีกให้สอดคล้องกันทั้งระบบ
5.
การคลายความเครียด ความเครียดเป็นอุปสรรค์ต่อการเรียนรู้
6.
การบริหารสมอง การบริหารสมองเป็นระบบการเคลื่อนไหวร่างกาย
ที่จะเร้าให้ สมองทำงานอย่างดี
เป็นการเชื่อมโยงระหว่างการเคลื่อนไหวร่างกายกับการทำงานของสมอง
3.
การเรียนรู้มีมาแต่กำเนิด
ในการเรียนรู้ของบุคคลเรานั้นจะเกิดขึ้นตั้งแต่เริ่มมีชีวิต
และเป็นที่รู้กันโดยทั่วไปว่าการเรียนรู้ที่ดีที่สุด
นั้นจะต้องลงมือปฏิบัติด้วยตนเองหรือเป็นการเรียนรู้โดยประสบการณ์ตรง
การเรียนรู้กับการเรียนการสอน
การที่จะทำให้ผู้เรียนได้มีโอกาสศึกษาเรียนรู้เพื่อเป็นผู้ที่เก่ง ดี และมีความสุขได้นั้น
ย่อมขึ้นอยู่กับปัจจัย
หลายประการด้วยกัน แต่ปัจจัยหนึ่งที่สำคัญยิ่ง ได้แก่
การจัดการเรียนการสอน เพราะหัวใจของการเรียน
การสอนคือการเรียนรู้ของผู้เรียน
ซึ่งถ้าหากมีการจัดการเรียนการสอนที่ดี ย่อมก่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ที่ดีได้
ลักษณะการเรียนการสอนที่ดี มีดังต่อไปนี้
1.
ต้องคำนึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล
2.
เน้นความต้องการของผู้เรียนเป็นหลัก
3.
ต้องพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้เรียน
4.
ต้องเป็นที่น่าสนใจ ไม่ทำให้ผู้เรียนรู้สึกเบื่อหน่าย
5.
ต้องดำเนินไปด้วยความเมตตากรุณาต่อผู้เรียน
6.
ต้องท้าทายให้ผู้เรียนอยากเรียนรู้
7.
ต้องตระหนักถึงเวลาที่เหมาะสมที่ผู้เรียนจะเกิดการเรียนรู้
8.
ต้องสร้างสถานการณ์ให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ โดยการปฏิบัติจริง
9.
ต้องสนับสนุนส่งเสริมการเรียนรู้
10.
ต้องมีจุดมุ่งหมายของการสอน
11.
ต้องสามารถเข้าใจผู้เรียน
12.
ต้องคำนึงถึงภูมิหลังของผู้เรียน
13.
ต้องไม่ยึดวิธีการใดวิธีการหนึ่งเท่านั้น
14.
การเรียนการสอนที่ดีเป็นพลวัตร
15.
ต้องสอนในสิ่งที่ไม่ไกลตัวผู้เรียนมากเกินไป
16.
ต้องมีการวางแผนการเรียนการสอนอย่างเป็นระบบ
4.
รูปแบบการเรียนรู้ของบุคคล
ผู้เรียนในห้องเรียนหนึ่ง ๆ
มักจะมีผู้ถนัดการเรียนรู้ตามรูปแบบของตน
ครูจึงจำเป็นต้องจัดกิจกรรม
การเรียนรู้ให้เหมาะสมกับผู้เรียนทุกรูปแบบอย่างเสมอภาคกัน
เพื่อให้ผู้เรียนมีความสนุกสนาน
และเกิดความสุขในการเรียนรู้ตามรูปแบบที่ตนถนัด
แนวการจัดการเรียนการสอน
การเรียนรู้จะเกิดขึ้นได้มิใช่เกิดจากการสั่ง การสอน การถ่ายทอดเพียงอย่างเดียว
แต่ต้องเกิดจาก
ประสาทสัมผัสทั้ง 5 ของมนุษย์ มีการรับรู้ คือ การแสวงหาและรับข้อมูล
ข้อความรู้จากประสาทสัมผัสต่าง ๆ
มีการบูรณาการความรู้ เป็นการนำข้อมูลข่าวสาร
ความรู้ใหม่ที่ได้รับมาผสมผสานเชื่อมโยงกับประสบการณ์
หรือโครงสร้างขอความรู้เดิม
เพื่อขยายหรือสร้างความรู้ใหม่ มีการประยุกต์ใช้
คือการนำความรู้มาใช้ในการ
ดำรงชีวิต หรือ การแก้ปัญหาในการทำงาน ดังนั้น
การจัดการเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ที่แท้จริงและถาวรนั้น
จะต้องจัดให้ครบ
องค์ประกอบทั้ง 3 ส่วน ได้แก่ การรับรู้ การบูรณาการความรู้
และการประยุกต์ใช้
เพื่อเป็นการเชื่อมโยงความรู้สู่การปฏิบัติจริงในวิถีชีวิต
5.
ความสนใจมีความสำคัญต่อการเรียนรู้
ความสามารถพิเศษของมนุษย์ แบ่งออกเป็น 8 ด้านด้วยกัน
มนุษย์ย่อมมีความ แตกต่างระหว่างบุคคล
แต่ละคนมักจะมีความเก่งไม่เหมือนกัน
ควรเปิดโอกาสให้ผู้เรียนเป็น ผู้วางแผนในการพัฒนาตนเอง
โดยเริ่มจากรู้จักตนเอง
รู้จุดเด่น จุดด้อย
ค้นหาวิธีการพัฒนาความเก่งให้แก่ตนเองที่จะนำไปสู่การปฏิบัติ
อย่างมีความสุขและเกิดการเรียนรู้อย่างมี
ความหมาย
แนวการจัดการเรียนการสอน
ครูผู้สอนจะต้องมีข้อมูล และรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล คิดและจัดกิจกรรมเพื่อพัฒนาความถนัด/ความสามารถ
หรือความเก่งให้เก่งมากยิ่งขึ้น
รวมทั้งการพัฒนาด้านอื่น ๆ อีกให้มีความเก่งหลาย ๆ ด้าน
เปิดโอกาสให้ผู้เรียน
ได้แสดงออกถึงความสามารถหรือความเก่งสู่สาธารณชน โดยอาจจัดเวทีให้แสดงอย่างอิสระ
6.
สมองมีหน้าที่สร้างกระบวนการเรียนรู้
สมองของคนเราแบ่งออกเป็น 2 ซีก คือซีกซ้ายกับซีกขวา
สมองทั้งสองด้านมีความสัมพันธ์กัน สมองมีหน้าที่
ควบคุมการรับรู้ การคิด
การเรียนรู้และการจำ ควบคุมการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย
และควบคุม
ความรู้สึกและพฤติกรรม จะเห็นได้ว่า สมองไม่ได้มีหน้าที่เฉพาะรับรู้แต่เพียงอย่างเดียว
แต่จะเป็นอวัยวะ
ที่สำคัญต่อการพัฒนาของอวัยวะทั้งหมดในร่างกาย ซึ่งรวมถึงความคิด
การเรียนรู้ การจำ และพฤติกรรมของมนุษย์
แนวการจัดการเรียนการสอน
การจัดการเรียนการสอนที่ดี
ครูต้องมีความเข้าใจทักษะที่เกี่ยวโยงกับความสามารถพิเศษของสมองแต่ละซีก
สมองซีกซ้ายสั่งการทำงานเกี่ยวกับ คำ ภาษา ตรรก ตัวเลข/จำนวน ลำดับ ระบบ
การคิดวิเคราะห์
และการแสดงออกเป็นต้น สมองซีกขวาจะสั่งการเกี่ยวกับ จังหวะ ดนตรี
ศิลปะ จินตนาการ การสร้างภาพ
การรับรู้ การเห็นภาพรวม ความจำ ความคิดสร้างสรรค์
เป็นต้น
7.
การเรียนรู้ในสิ่งที่สนใจสามารถรับรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สมองจะซึมซับข้อมูลที่บุคคลมีความสนในเรื่องนั้นอยู่แล้ว
เชื่อมโยงกับข้อมูล ความรู้ใหม่ ประสานข้อมูล
ความรู้เข้าด้วยกัน ซึ่งหมายความว่า
การเรียนรู้ของมนุษย์จะมี ประสิทธิภาพสูงขึ้น
เมื่อมีการเชื่อมโยง
ระหว่างประสบการณ์เดิมของผู้เรียนกับการจัด
ประสบการณ์ในการเรียนรู้ในแต่ละครั้ง
แนวการจัดการเรียนการสอน
ควรจัดเนื้อหาที่มีความหลากหลายครอบคลุมทุกมิติของชีวิตมนุษย์
กระบวนการเรียนรู้มีลักษณะหลากหลาย
ร่วมกันในลักษณะ ผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง
แหล่งการเรียนรู้หลากหลาย เช่น เรียนรู้จากสื่อธรรมชาติ
จากคำบอกเล่า
ของผู้เฒ่าผู้แก่ จากแหล่งงานอาชีพของชุมชน จากการค้นคว้าทางเทคโนโลยี
ฯลฯ
8.การเรียนรู้เกิดขึ้นได้เกี่ยวข้องกับกระบวนการทั้งในแบบที่มีจุดมุ่งหมายและไม่ได้ตั้งใจ
การเรียนรู้ของคนส่วนใหญ่มักเกิดการเรียนรู้ขึ้นได้จากสิ่งที่ไม่ได้ตั้งใจ
สามารถเรียนรู้ได้จากประสบการณ์
ในสถานการณ์จริง เช่น
ในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่เผชิญอยู่โดยไม่ได้คิดในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นมาก่อน
โดยอาศัยประสบการณ์เดิมของแต่ละบุคคลในการเรียนรู้ที่จะแก้ปัญหาได้อย่างเหมาะสม
แนวการจัดกิจกรรมการสอน
ในกระบวนการเรียนรู้นั้น ขณะที่ผู้เรียนเรียนรู้นั้นอาจเป็นแค่การรับรู้
แต่ยังไม่เข้าใจ
ความเข้าใจอาจเกิดขึ้น
ภายหลังจากที่ผู้เรียนสามารถมองเห็นถึงความหมายและความเชื่อมโยงสัมพันธ์กันถึงสิ่งต่าง
ๆ ที่ตนเองรับรู้
จากแหล่งความรู้ที่หลากหลาย ในระดับที่สามารถอธิบายเชิงเหตุผลได้
ซึ่งบางครั้งการสอนในชั้นเรียนเมื่อจบลง
บางบทเรียนไม่สามารถทำให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้
เนื่องจากการสอนนั้นไม่สอดคล้องกับประสบการณ์เดิมของผู้เรียน
9.
การเรียนรู้ที่เกิดจากกระบวนการสร้างความเข้าใจ
การเรียนรู้ที่ดีเกิดจากกระบวนการที่สร้างความเข้าใจ
และให้ความหมายกับสิ่งที่รับรู้มา มีการเชื่อมโยงระหว่าง
สิ่งที่เรียนกับชีวิตจริง
สอน/แนะนำบนพื้นฐานความรู้ ประสบการณ์และทักษะที่มีอยู่เดิมของผู้เรียน
แนวการจัดการเรียนการสอน
บางครั้งการจำเป็นสิ่งสำคัญและมีประโยชน์
แต่การสอนที่เน้นการจำไม่ก่อให้เกิด ความเชื่อมโยงให้เกิดการเรียนรู้
และบางครั้งเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาความเข้าใจ
ถ้าครูไม่ได้ศึกษาลีลารูปแบบการเรียนรู้ของผู้เรียนแต่ละประเภท
ว่ามีความชื่นชอบ ความถนัด
วิธีการเรียนรู้ หลักการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ
และจัดกิจกรรมการสอนให้สอดคล้อง
กับผู้เรียนแต่ละประเภท จะส่งผลต่อการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพเช่นเดียวกัน
10.
การเรียนรู้เกิดจากการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น
ภาษาแรกของมนุษย์เราถูกเรียนรู้จากประสบการณ์ที่มีปฏิสัมพันธ์กันอย่างหลากหลาย
ด้วยคำศัพท์และไวยากรณ์
ถูกเรียนรู้โดยกระบวนการเรียนรู้ภายในของบุคคลที่เกิดจากการมี ปฏิสัมพันธ์กับสังคมและสิ่งแวดล้อมภายนอก
แนวการจัดการเรียนการสอน
ครูจำเป็นต้องใช้กิจกรรมที่เป็นสถานการณ์ในชีวิตประจำวัน
ประกอบด้วย การสาธิต การทำโครงงาน ทัศนศึกษา
การรับรู้ประสบการณ์ด้วยการมองเห็นของจริง การเล่าเรื่อง ละคร
และการมีปฏิสัมพันธ์ต่อคนหลาย ๆ ประเภท
การเรียนแบบมุ่งประสบการณ์ทางภาษาสามารถเรียนรู้ได้ในกระบวนการโดยผ่านเรื่องหรือการเขียน
ความสำเร็จ
ขึ้นอยู่กับการใช้ประสาทสัมผัสและให้ผู้เรียนพบประสบการณ์ที่ซับซ้อนและมีความเกี่ยวข้องกันในเนื้อหา
ครูไม่ควรเป็นเพียงผู้บรรยาย แต่ควรเป็นผู้กำกับที่ทำให้ผู้เรียนเกิดประสบการณ์ที่ส่งผลต่อการเรียนรู้
11.
การเรียนรู้คือการส่งเสริมให้ผู้เรียนเผชิญกับสถานการณ์สิ่งแวดล้อมที่กระตุ้นการเรียนรู้
เซลล์สมองจะเกิดมีการเชื่อมต่ออย่างสูงสุด
เมื่อถูกกระตุ้นให้เผชิญกับสถานการณ์ ที่ท้าทายให้ผู้เรียนอยากเรียนรู้
โดยผ่านกระบวนการเล่นอย่างสนุกสนาน และมีความสุข ปราศจากความเครียด
เพราะความเครียดเป็นสิ่งที่บั่นทอน
การเรียนรู้ของผู้เรียนได้
แนวการจัดการเรียนการสอน
ควรสร้างสถานการณ์และสิ่งแวดล้อมให้ปลอดภัยเพื่อ การเรียนรู้
โดยผ่านการเล่นแบบท้าทาย การเสี่ยง
ความสนุกสนาน
เป็นสิ่งจำเป็นที่ทำให้เกิดการเรียนรู้
การถูกทำโทษอันเนื่องมาจากความผิดพลาดจะทำให้
เป็นอุปสรรคต่อการเรียนรู้
ครูจึงไม่ควรลงโทษผู้เรียน ในการเข้าร่วมกิจกรรมที่ให้ผู้เรียนเผชิญกับสถานการณ์แวดล้อม
ที่กระตุ้นการเรียนรู้
12.
สมองของบุคคลมีความเท่าเทียมกัน
มนุษย์ทุกคนมีระบบสมองที่เหมือนกัน
ถึงแม้ว่าทุกคนจะมีศักยภาพแตกต่างกันในด้าน ความรู้ความถนัดที่มีอยู่เดิม
ตามสภาพแวดล้อมของแต่ละคน แต่เราสามารถเรียนรู้ได้เต็มตามศักยภาพได้อย่างเท่าเทียมกัน
แนวการจัดการเรียนการสอน
ผู้เรียนมีความแตกต่างกันเกี่ยวกับความสามารถทางสติปัญญา
ความสามารถความเก่งของมนุษย์ คือ
ทฤษฎีพหุปัญญา ความเป็นคนเก่งคืออะไร
มีคำตอบมากมายหลายรูปแบบ แต่สรุปรวมได้ว่า
คนเก่งคือผู้มีความสามารถด้านใดด้านหนึ่งเฉพาะด้าน
หรือหลาย ๆ ด้าน ที่แสดงออกถึงความสามารถ
ได้อย่างเป็นที่ประจักษ์
ในการพัฒนาความเก่งนั้น ควรเปิดโอกาสให้ผู้เรียนเป็นผู้วางแผนในการพัฒนาตนเอง
โดยเริ่มจากการรู้จักตนเอง รู้จุดเด่นจุดด้อย
ค้นหาวิธีพัฒนาความเก่งให้แก่ตนเองที่จะนำไปสู่การปฏิบัติอย่าง
มีความสุขและเกิดการเรียนรู้อย่างมีความหมาย
ภายใต้การดูแล กระตุ้น ให้คำแนะนำ อำนวยความสะดวกของครู
พ่อแม่
ผู้ปกครองและผู้เกี่ยวข้อง ดังนั้น
จะเห็นได้ว่าความเก่งพัฒนาได้ถ้ารู้วิธีและทำถูกวิธี
กิจกรรมการสาธิตการจัดการเรียนการสอนแบบ BBL
ขนมปัง
อุปกรณ์
- ขนมปัง
- ใส้กรอก , ปูอัด
- ผักสลัด
- ทูน่า
วิธีการทำ
- นำขนมปังมาทาทูน่าให้ทั่วแผ่น
- ใส่ผักสลัด , ใส่กรอก , ปูอัด ที่หั่นไว้ตามต้องการ
เรียนรู้การผสมสีเบื้องต้น
จากสะพานกระดาษทิชชู
อุปกรณ์
§ - แก้วน้ำพลาสติก
§ - สีผสมอาหาร
§ - กระดาษทิชชู แผ่นหนา
§ - น้ำ
วิธีทำ
1. - นำสีผสมอาหาร ผสมน้ำใส่ลงไปในแก้ว 2 ใบ สีละ 1 ใบ
2.- จากนั้นนำแก้วน้ำทั้งสองใบ วางคั่นระหว่างแก้วนำเปล่า
3.- นำกระดาษทิชชู ม้วนเป็นเกลียว
4.- จุ่มกระดาษทิชชูลงไปในน้ำสี จนชุ่ม นำปลายอีกด้าน
ใส่ลงไปในแก้วเปล่า
5.- ทำแบบเดียวกัน กับน้ำสีอีกใบ แต่นำปลายอีกด้าน
มาใส่ในแก้วน้ำเปล่าใบเดียวกัน
6.- จะสังเกตได้ว่า แก้วน้ำเปล่าตรงกลาง จะมีน้ำสีเกิดขึ้นใหม่
ซึ่งเกิดจาดการผสมกัน ระหว่างน้ำสองสี
ประเมิน
เพื่อน : เพื่อน ๆ เข้าเรียนตรงเวลา ตั้งใจนำเสนองานและตั้งใจฟังเพื่อนกลุ่มอื่นนำเสนอ และมีการจดบันทึก
ตนเอง : เข้าเรียนตรงเวลา แต่งกายเรียนร้อย ตั้งใจในการนำเสนองาน และมีการจดบันทึก
อาจารย์ : อาจารย์เข้าสอนตรงเวลา ให้คำแนะนำในการจัดกิจกรรมได้ชัดเจนและเข้าใจมากขึ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น